เมื่อไม่นานนี้เอง มีโอกาสได้เปิดฝาเครื่อง macbook 2 เครื่อง เพื่อถอด SSD drive จากเครื่องนึง ไปยังอีกเครื่องนึง แล้วเลยไปสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่มันปูดแล้ว เป็นภาพที่น่ากลัว..แต่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ macbook แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ macbook แสดงบทความทั้งหมด
วันพุธ, เมษายน 20, 2559
วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 27, 2558
5 สิ่งที่ควรทำหลังลง OSX ใหม่
ถ้านับจริงๆมันก็เกินล่ะครับ :P ขอใช้เลข 5 ให้ title มันสวยๆก็แล้วกัน
โพสนี้เป็นเหมือน checklist ที่ผมจะทำหากต้องติดตั้งหรือลง OSX ใหม่ (คือไม่ได้ upgrade แต่เนื่องจาก format harddisk เปลี่ยน harddisk ฯ)
ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ในนี้จะเป็นของโปรแกรมเมอร์ซะส่วนใหญ่ แต่ถ้า คนอ่านที่หลงเข้ามาไม่ใช่สาย IT ผมก็คิดว่าซอฟต์แวร์บางตัวก็มีประโยชน์กับอาชีพอื่นๆ นอกจากโปรแกรมเมอร์เช่นกัน
ขั้นตอนการติดตั้งซอฟต์แร์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้ internet ฉะนั้นก่อนจะพิมพ์คำสั่ง แล้วกด Enter ให้แน่ใจว่าเชื่อมต่อ internet อยู่นะครับ
1 ซอฟต์แวร์พื้นฐาน
Trim Enabler ผมใช้ SSD solid state drive จึงต้องลงตัวนี้ก่อน เพื่อ enable TRIM
เจ้า TRIM คืออะไรเอาง่ายๆคือ มันจะทำให้ประสิทธิที่ภาพการเขียนลง SSD disk ดีอยู่เสมอ อาจจะเห็นว่ามันแสดง 10USD โหลดมาเถอะครับ สิ่งที่เราต้องการไม่ต้องเสียเงิน เค้าคิด 10$ หากต้องการใช้ full feature
เขียนอ่าน NTFS partition/drive ได้
ตัวนี้ วิธีทำให้ OSX 10.10 Yosemite อ่าน/เขียน NTFS ได้ ของผมยังคงใช้งานได้อยู่
ohmyzsh
ตัวนี้ผมเรียกว่าเป็น shell utility ทำให้การใช้งาน command line สะดวกสบายขึ้นเยอะ
พิมพ์คำสั่งข้างล่างใน Terminal app เพื่อเริมการติดตั้ง
$ sh -c "$(curl -fsSL https://raw.github.com/robbyrussell/oh-my-zsh/master/tools/install.sh)"
ติดตั้งแล้วก็ config มันหน่อย แก้ไข ~/.zshrc
ZSH_THEME="gnzh”
...
plugins=(git sublime osx)
ZSH theme จะเกี่ยวกับเรื่อง สีสันใน terminal และตัว prompt ของเราplugin 3 ตัวนี้
git เวลาอยู่ใน directory ที่เป็น Git repository มันจะแสดง prompt ให้เราเห็นชัดเจนเลย ว่าตอนนี้อยู่ใน Git repo แล้วอยู่ branch ไหนก็บอกได้ด้วย
sublime ตัวนี้ลงไว้เพื่อ พิมพ์
subl ชื่อไฟล์
แล้วมันจะเปิด Sublime Text พร้อมไฟล์ที่เราใส่เข้าไปให้เลย osx เวลาเรานึกหรือขี้เกียจพิมพ์ option ต่างๆ กด tab แล้วมันจะช่วยแสดงออกมาให้
และหากใช้ macbook ต่อกับ window keyboard แบบผม คุณจะใช้ numpad ใน terminal ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ใส่ configuration แบบข้างล่างนี้เข้าไปใน
~/.zshrc
ด้วย # 20150102 zsh numpad binding
# Keypad
# 0 . Enter
bindkey -s "^[Op" "0"
bindkey -s "^[On" "."
bindkey -s "^[OM" "^M"
# 1 2 3
bindkey -s "^[Oq" "1"
bindkey -s "^[Or" "2"
bindkey -s "^[Os" "3"
# 4 5 6
bindkey -s "^[Ot" "4"
bindkey -s "^[Ou" "5"
bindkey -s "^[Ov" "6"
# 7 8 9
bindkey -s "^[Ow" "7"
bindkey -s "^[Ox" "8"
bindkey -s "^[Oy" "9"
# + - * /
bindkey -s "^[Ok" "+"
bindkey -s "^[Om" "-"
bindkey -s "^[Oj" "*"
bindkey -s "^[Oo" "/"
เวบไซด์อย่างเป็นทางการ ohmyz.sh Command line tools
ตัวนี้จำเป็นสำหรับ ขั้นตอนต่อไป พิมพ์คำสั่งข้างล่างนี้ใน Terminal app
$ xcode-select --install
Homebrew
เค้าเรียกกันว่ามันคือ package manager ที่สาบสูญของ OS X
พิมพ์คำสั่งข้างล่างใน Terminal app เพื่อเริ่มการติดตั้ง
$ ruby -e "$(curl -fsSL https://raw.githubusercontent.com/Homebrew/install/master/install)"
brew จะทำให้เราสามารถใช้คำสั่งเหมือนที่ใช้ใน linux อย่าง Ubuntu ได้ง่ายๆ คือเรียกเอามาติดตั้งได้ง่ายๆ ถ้าอยากจะลง package เช่น subversion, node, iojs พอลง brew เสร็จ มันก็จะลงเจ้าพวกที่ว่ามานี้ได้ง่ายมั่ก เวบไซด์อย่างเป็นทางการ brew.sh
2 ซอฟต์แวร์สำหรับโปรแกรมเมอร์
ณ เวลาที่เขียนนี้ เพิ่งมารู้ว่า Oracle ไม่เปิดให้ download JDK 7 สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว จะต้องเสียเงินถึงจะเข้าไป download ได้ (อยู่ใน section Java SE Support)ไปดาวโหลด JDK 8 ได้จาก ที่นี่ Java download ได้ dmg มาแล้วก้อ click ขวา open แล้วทำตามขั้นตอนไปตามที่เค้าแนะนำครับ
รวม FAQ https://www.java.com/en/download/faq/java_mac.xml หากอยากถอยไปใช้ Java 6 ก็มีลิ้งบอกวิธีอยู่
ถ้าพัฒนางานด้วย Java จะไม่ติดตั้ง 2 ตัวนี้คงไม่ได้
Java build tools: Ant, Maven
- Dowload Ant เลือกตัวที่เป็น .tar.gz archive
- Download Maven เลือกตัวที่เป็น Binary tar.gz archive
ผมชอบที่จะเอา software tools เหล่านี้เอาไว้ที่เดียวกัน ที่ apps folder /Users/dahoba/apps
เมื่อแตกไฟล์ distribution ของทั้ง 2 ตัวแล้วก็ต้องมาเซต PATH ให้มันด้วย ใน ~/.zshrc
...
export ANT_HOME=/Users/dahoba/apps/apache-ant-1.9.6
export M2_HOME=/Users/dahoba/apps/apache-maven-3.3.3
...
export PATH=$PATH:$ANT_HOME/bin:$M2_HOME/bin
...
อื่นๆ ที่ขาดไม่ได้
ถ้ายังไม่มีตัวติดตั้งก็กดที่ลิ้งเพื่อ download ได้เลย
- Sublime Text Text editor ที่ขาดไม่ได้ในทศวรรษนี้ download
- Eclipse for Java EE Developers
- Chrome browser
3 ซอฟต์แวร์เพื่อ Productivity
เป็น terminal app ที่ OS X ควรจะเป็น ผมชอบตรงที่มัน split ช่องได้ด้วย keyboard shortcut iTerm2 download
Slate
Utility ตัวนี้ก็ว่ากันว่าเป็น window manager ที่สาบสูญไปจาก OSX อีกเช่นกัน
พิมพ์คำสั่งข้างล่างใน Terminal app เพื่อเริ่มการติดตั้ง
$ cd /Applications && curl http://www.ninjamonkeysoftware.com/slate/versions/slate-latest.tar.gz | tar -xz
Slate นี่มันต้อง config เหนื่อยหน่อยนะครับ ของผมดูแนวทางจาก Tristan Hume blog นี้
ของผมเป็นแบบนี้
ถ้าใครอยากได้ที่มันง่ายๆกว่านี้ ก็ลองหาดู Divvy, Moom, ตัวนี้ฟรี Spectacle
ไฟล์ส่วนตัวใน Cloud
4 เครื่องมือสื่อสารกับทีม
เครื่องมือสื่อสารกับทีม
- Skype,
- LINE
- Google Hangouts
5 Configuration
ปรับการใช้งาน touchpad
ใช้งาน 3 นิ้วพร้อมกันได้
ไม่ใช้ natural scroll
ปรับเวลาเป็นแบบ 24 ชั่วโมง
ทำ lock icon บน menu bar เวลาจะลุกจากที่นั่งผมชอบที่จะต้อง lock computer เอาไว้ ทำ icon ไว้ตรงนี้จะทำให้สะดวกขึ้นมาก
วิธี:
- เปิด app “Keychain Access” จะใช้ spotlight ค้นหาหรือจะใช้ Finder ก็จะอยู่ใน /Applications/Utilities.
- เลือก “Show Status in Menu Bar” จากเมนู View
- ทีนี้เราจะได้ lock icon ที่ menu bar แล้ว ใช้ Lock the screen เพื่อ lock screen เมื่อกลับมา ลาก mouse หรือกด key อะไรๆก็ได้ มันจะถาม password ก่อนจะอนุญาตให้กลับเข้ามาใช้งานได้
วันศุกร์, มกราคม 02, 2558
วิธี ใช้ Google Drive icon สีขาวบน Yosemite dark menu bar

ตั้งแต่ upgrade macbook มาเป็น Yosemite ก็ต้องรำคาญกับ icon ของ Google Drive บน menu bar สีดำ เพราะสีมันกลืนกัน ดูยาก
ใครอยากเปลี่ยนให้มันดูง่ายๆ ทำตามได้เลยครับ :)
อ่อ script นี้จะใช้งานได้ มีข้อแม้ว่า Google Drive.app ต้องติดตั้งไว้ที่ folder Applications
สร้างไฟล์ fix-google-drive-dark-mode-icons.sh เนื้อหาตามข้างล่าง ไว้ที่ ~/Desktop
ถ้าคุ้นเคยกับการใช้ shell script กันอยู่แล้ว คุณจะไว้ที่ไหนก็ได้ ตั้งชื่อไฟล์ว่าอะไรก็ได้ ;)
#!/bin/bash
function switch_files {
mv $1.png $1.tmp.png
mv $1-inverse.png $1.png
mv $1.tmp.png $1-inverse.png
mv $1@2x.png $1@2x.tmp.png
mv $1-inverse@2x.png $1@2x.png
mv $1@2x.tmp.png $1-inverse@2x.png
}
RUNNING=`ps aux | grep '/Google Drive' | grep -v grep | wc -l | bc`
if [ "$RUNNING" = "1" ]; then
killall 'Google Drive'
while [ "$RUNNING" = "1" ]; do
sleep 1
RUNNING=`ps aux | grep '/Google Drive' | grep -v grep | wc -l | bc`
done
fi
sleep 3
cd '/Applications/Google Drive.app/Contents/Resources/'
switch_files mac-animate1
switch_files mac-animate2
switch_files mac-animate3
switch_files mac-animate4
switch_files mac-animate5
switch_files mac-animate6
switch_files mac-animate7
switch_files mac-animate8
switch_files mac-error
switch_files mac-inactive
switch_files mac-normal
switch_files mac-paused
open '/Applications/Google Drive.app'
เสร็จแล้ว เปิด Terminal
$ chmod +x ~/Desktop/fix-google-drive-dark-mode-icons.sh
$ ~/Desktop/fix-google-drive-dark-mode-icons.sh
เมื่อ execute script แล้ว รอสักครู่ เมื่อ prompt return กลับมาเป็นอันเสร็จ
ขอบคุณ คุณ gboudreau จาก reddit
วันจันทร์, มีนาคม 18, 2556
แก้ปัญหา macbook (osx) มีชื่อเครื่อง (hostname) เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
Fixing OSX Mountain Lion show the incorrect hostname in the terminal application
ทำงานที่ออฟฟิส เครือข่ายภายในเค้าจะมี proxy server, DNS server, DHCP server ที่ตั้งขึ้นมาใช้งานกันภายใน.
ผมเป็นคนที่ต้องใช้งาน Terminal บ่อย เวลาเปิด Terminal app/iTerm 2 ขึ้นมา
hostname ที่ตั้งเอาไว้ใน Network Preference มันใช้งานไม่ได้เลย (sinb-56-001)
หรือจะบอกว่ามันไม่เคยได้ชื่อ hostname ที่ตั้งเอาไว้เลย
จะได้
SPTNB-54-002:~ siritas_s$
หรือ
EPNB-54-002:~ siritas_s$
หรืออื่นๆอีกมากมาย
เคยคุยกับ Network admin เค้าบอกว่ามันเป็นที่ตัว AD (Active directory) มั้งนะ ทางแก้ทางนึงคือเค้าจะต้องมาคอย clean ชื่อเหล่านี้ทิ้งซะ ซึ่งมันเยอะและเสียเวลา
ผมว่ามันน่ารำคาญ แต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์อันร้ายแรงจากปัญหานี้ แต่ก็พยายามลองหาทางแก้อื่น ตอนนี้เจอแล้ว
Solution วิธีแก้
ให้ใช้ Terminal app แก้ไขไฟล์ /etc/hostconfig ตามนี้
i.e.:
$sudo vi /etc/hostconfig
ให้แก้
HOSTNAME=-AUTOMATIC-
เปลี่ยนจาก -AUTOMATIC- เป็นชื่อที่อยากใช้ได้เลย
หรือถ้าไม่มีบรรทัด HOSTNAME นี้ก็เพิ่มเข้าไปเองได้เลย
i.e.
HOSTNAME=SINB-56-001
ทดลอง restart เครื่อง/ restart OSX ดูก่อน
ถ้ายังแก้ไม่ได้ให้ลองดูไฟล์ /Library/Preferences/SystemConfiguration/preferences.plist ว่ามีการอ้างถึง hostname ที่ไม่ถูกต้องอยู่อีกหรือไม่ ถ้ามีก็แก้ไขซะแล้ว restart อีกครั้ง
คราวนี้น่าจะแก้ไขกันได้แล้ว :) ผมทดลองแล้ว (กับ OSX 10.8.x/Mountain Lion) แก้ไขได้ปัญหาไม่เกิดขึ้นอีก
ref: http://excitedcuriosity.wordpress.com/2007/08/24/mac-os-x-hostname-determination/
ทำงานที่ออฟฟิส เครือข่ายภายในเค้าจะมี proxy server, DNS server, DHCP server ที่ตั้งขึ้นมาใช้งานกันภายใน.
ผมเป็นคนที่ต้องใช้งาน Terminal บ่อย เวลาเปิด Terminal app/iTerm 2 ขึ้นมา
hostname ที่ตั้งเอาไว้ใน Network Preference มันใช้งานไม่ได้เลย (sinb-56-001)
จะได้
SPTNB-54-002:~ siritas_s$
หรือ
EPNB-54-002:~ siritas_s$
หรืออื่นๆอีกมากมาย
เคยคุยกับ Network admin เค้าบอกว่ามันเป็นที่ตัว AD (Active directory) มั้งนะ ทางแก้ทางนึงคือเค้าจะต้องมาคอย clean ชื่อเหล่านี้ทิ้งซะ ซึ่งมันเยอะและเสียเวลา
ผมว่ามันน่ารำคาญ แต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์อันร้ายแรงจากปัญหานี้ แต่ก็พยายามลองหาทางแก้อื่น ตอนนี้เจอแล้ว
Solution วิธีแก้
ให้ใช้ Terminal app แก้ไขไฟล์ /etc/hostconfig ตามนี้
i.e.:
$sudo vi /etc/hostconfig
ให้แก้
HOSTNAME=-AUTOMATIC-
เปลี่ยนจาก -AUTOMATIC- เป็นชื่อที่อยากใช้ได้เลย
หรือถ้าไม่มีบรรทัด HOSTNAME นี้ก็เพิ่มเข้าไปเองได้เลย
i.e.
HOSTNAME=SINB-56-001
ทดลอง restart เครื่อง/ restart OSX ดูก่อน
ถ้ายังแก้ไม่ได้ให้ลองดูไฟล์ /Library/Preferences/SystemConfiguration/preferences.plist ว่ามีการอ้างถึง hostname ที่ไม่ถูกต้องอยู่อีกหรือไม่ ถ้ามีก็แก้ไขซะแล้ว restart อีกครั้ง
คราวนี้น่าจะแก้ไขกันได้แล้ว :) ผมทดลองแล้ว (กับ OSX 10.8.x/Mountain Lion) แก้ไขได้ปัญหาไม่เกิดขึ้นอีก
ref: http://excitedcuriosity.wordpress.com/2007/08/24/mac-os-x-hostname-determination/
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)